แรชฟอร์ดจวกแมนฯ ยูไนเต็ด “ติดหล่มไร้ทิศทาง” ชี้ยังไม่เคยเริ่มการเปลี่ยนผ่านจริงจัง

มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าทีมชาติอังกฤษที่ปัจจุบันถูกปล่อยยืมไปบาร์เซโลนา ออกโรงวิจารณ์สถานการณ์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างตรงไปตรงมา
โดยระบุว่าสโมสรอยู่ในสภาพ “ไร้ทิศทาง” นับตั้งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือเมื่อ 12 ปีก่อน และไม่เคยมีหลักการเล่นที่ชัดเจนหรือแผนระยะยาวที่ต่อเนื่อง
แรชฟอร์ดซึ่งเป็นเด็กปั้นจากอะคาเดมีในยุคเฟอร์กี้ และเพิ่งถูก รูเบน อโมริม กุนซือคนปัจจุบันดรอปพ้นทีมหลัก เผยผ่านพอดแคสต์ The Rest is Football ว่า ยูไนเต็ดตลอดหลายปีที่ผ่านมาเล่นแบบ “ตอบสนองสถานการณ์” มากกว่ามีทิศทางชัดเจน “ทีมที่ประสบความสำเร็จจริงๆ จะมีหลักการที่โค้ชหรือผู้เล่นใหม่ต้องปรับตัวเข้าหา แต่ยูไนเต็ดบางครั้งแค่หิวชัยชนะแล้วก็เปลี่ยนแนวทางไปตามสถานการณ์ มันเลยไม่มีความต่อเนื่อง”
เขายกตัวอย่าง ลิเวอร์พูล ในยุค เจอร์เกน คล็อปป์ ที่ใช้เวลาเกือบ 4 ปีกว่าจะคว้าแชมป์แรก และสุดท้ายก็พาทีมสิ้นสุดการรอคอย 30 ปีในปี 2020 “การเปลี่ยนผ่านต้องมีแผนและต้องยึดมั่น ไม่ใช่เปลี่ยนไปเรื่อยเพราะแฟนบอลกดดันเมื่อผลงานไม่ดี”
แรชฟอร์ดยังชี้ว่า การที่ยูไนเต็ดเปลี่ยนผู้จัดการทีมถึง 6 คนในรอบ 12 ปี โดยไม่มีใครคุมเกิน 3 ปี คือสาเหตุที่สโมสรยังวนเวียนอยู่กับผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน “ผู้คนบอกว่าเราอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านมาหลายปี แต่จริงๆ แล้วเรายังไม่เคยเริ่มเปลี่ยนผ่านเลยด้วยซ้ำ”
คำพูดของแรชฟอร์ดสะท้อนความไม่พอใจและความผิดหวังต่อการบริหารทีม ซึ่งกำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักหลังจากซีซั่นก่อนจบเพียงอันดับ 15 ของพรีเมียร์ลีก

